ศึกแดงเดือดระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ยูไนเต็ด คือการเผชิญหน้าที่สะเทือนวงการฟุตบอลอังกฤษทุกยุค ทุกสมัย เต็มไปด้วยความทรงจำ ความแค้น และเกียรติยศ
ศึกแดงเดือดระหว่าง ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือการแข่งขันที่ถูกยกให้เป็น “สงครามศักดิ์ศรี” มากกว่าฟุตบอลปกติ สองทีมนี้ต่างสะสมความสำเร็จและฐานแฟนบอลมหาศาลทั่วโลก ลิเวอร์พูลสร้างยุคทองในทศวรรษ 70–80 ภายใต้การคุมทีมของบ็อบ เพสลีย์ และเคนนี ดัลกลิช ส่วนแมนยูยึดครองความยิ่งใหญ่ในยุค 90–2000 กับเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผลัดกันขึ้นสู่จุดสูงสุดของอังกฤษมาอย่างยาวนาน ในอดีต ลิเวอร์พูลเคยถล่มแมนยูมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกด้วยสกอร์ 7-0 (ปี 2023) ส่วนแมนยูเคยเอาชนะลิเวอร์พูลขาดสุด 5-0 (ปี 1925) การเจอกันแต่ละครั้งไม่เพียงแต่แย่งสามแต้ม แต่ยังแย่งศักดิ์ศรีและหัวใจแฟนบอลทั่วโลก ทุกเกมเต็มไปด้วยอารมณ์ ความตึงเครียด และเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่เล่าขานไม่รู้จบ
ศึกแดงเดือดครั้งนี้จะมีขึ้นในคืนวันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2025 เวลา 22:30 น. ที่สนามแอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 2 ของตารางพรีเมียร์ลีก เตรียมเปิดบ้านรับมือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 10 ทั้งสองทีมต่างมีเป้าหมายสำคัญในฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูลต้องการสามแต้มเพื่อลุ้นตำแหน่งจ่าฝูงกับแมนฯ ซิตี้และอาร์เซน่อล ส่วนแมนยูต้องการชัยชนะเพื่อขยับเข้าสู่ครึ่งบนของตาราง หลังออกสตาร์ตฤดูกาลได้ไม่คงเส้นคงวา
ลิเวอร์พูลชนะ 3 จาก 5 นัดหลังสุดในทุกรายการ โดยนัดล่าสุดบุกไปพ่ายเชลซี 1-2 ที่สแตมฟอร์ดบริดจ์ ส่วนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มกลับมามั่นใจอีกครั้ง หลังเปิดบ้านเอาชนะซันเดอร์แลนด์ 2-0 ในเกมลีกนัดที่ผ่านมา การพบกัน 5 ครั้งหลังสุดในทุกรายการ ลิเวอร์พูลชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 1 สกอร์รวม 5 นัด ลิเวอร์พูลยิงได้ 11 ประตู ส่วนแมนยูยิงได้ 8 ประตู สะท้อนถึงความสูสีของสองทีมใหญ่ที่ไม่เคยลดความดุเดือดลงเลยตลอดประวัติศาสตร์
เฮดทูเฮด 5 นัดหลังสุด | รายการ | ผลการแข่งขัน |
---|---|---|
05 ม.ค. 2025 | พรีเมียร์ลีก | ลิเวอร์พูล 2-2 แมนฯ ยูไนเต็ด |
01 ก.ย. 2024 | พรีเมียร์ลีก | แมนฯ ยูไนเต็ด 0-3 ลิเวอร์พูล |
03 ส.ค. 2024 | กระชับมิตร | แมนฯ ยูไนเต็ด 0-3 ลิเวอร์พูล |
07 เม.ย. 2024 | พรีเมียร์ลีก | แมนฯ ยูไนเต็ด 2-2 ลิเวอร์พูล |
17 มี.ค. 2024 | เอฟเอคัพ | แมนฯ ยูไนเต็ด 4-3 ลิเวอร์พูล |
หากดูจากสถิติฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูลยิงเฉลี่ย 2.3 ประตูต่อเกม แนวรุกนำโดย โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ฮูโก้ เอกิติเก้ และ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ที่กำลังประสานงานกันได้อย่างลงตัวและสร้างสรรค์เกมรุกได้หลากหลาย ส่วนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยิงเฉลี่ย 1.6 ประตูต่อเกม มี บรูโน่ แฟร์นันด์ส คุมเกมกลางสนาม โดยมี มาเธอุส คุนญ่า และ บรีย็อง เอ็มเบวโม่ เป็นตัวทะลวงแนวรับคู่แข่งจากแดนหน้า
หากพูดถึงนักเตะน่าจับตามอง ลิเวอร์พูลต้องพึ่งพาความเฉียบคมของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ การจบสกอร์ของ อเล็กซานเดอร์ อิซัค และความคล่องตัวของ ฮูโก้ เอกิติเก้ ส่วนแมนยูต้องการฟอร์มที่ดีที่สุดจาก บรูโน่ แฟร์นันด์ส, การเคลื่อนที่ของ มาเธอุส คุนญ่า และความเร็วของ บรีย็อง เอ็มเบวโม่ เกมนี้ไม่ใช่เพียงศึกชิงสามแต้ม แต่คือการชิงศักดิ์ศรีและหัวใจแฟนบอลทั่วโลก
🔥 คาดการณ์สกอร์: ลิเวอร์พูล 2-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ทีเด็ด: ลิเวอร์พูลเฉือนหวิว เกมรุกหลากหลายกว่าเดิม!