จอห์น เทอร์รี่ อดีตกัปตันทีมเชลซี ได้เปิดเผยเรื่องราวสุดประทับใจที่เกิดขึ้นระหว่างเขาและลิโอเนล เมสซี่ ในเกมที่พบกับบาร์เซโลนา เรื่องราวที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นสุภาพบุรุษและความถ่อมตัวของนักเตะผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
ก่อนลงสนามในเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ที่เชลซีต้องเผชิญหน้ากับบาร์เซโลนา จอห์น เทอร์รี่เล่าว่า ลูกชายของเขาได้ขอของที่ระลึกเป็น “เสื้อเมสซี่พร้อมลายเซ็น” เขาจึงให้คำมั่นกับลูกว่าจะต้องหามาให้ได้ ระหว่างการแข่งขัน เขาแทบไม่ได้คิดถึงผลแพ้ชนะเลย มีเพียงความตั้งใจว่าจะต้องได้เสื้อจากนักเตะในตำนานคนนี้ให้ลูกชาย หลังจบเกม เทอร์รี่เดินเข้าไปขอเสื้อจากเมสซี่ ซึ่งซูเปอร์สตาร์อาร์เจนไตน์ก็ยินดีให้ทันที แถมยังขอเสื้อของเทอร์รี่กลับไปด้วย
เรื่องราวสุดอบอุ่นจากวงการฟุตบอลกลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง เมื่อ “จอห์น เทอร์รี่” อดีตกัปตันทีมเชลซี ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับ “ลิโอเนล เมสซี่” ในเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก นัดที่เชลซีเจอกับบาร์เซโลนา ซึ่งเผยให้เห็นถึงความถ่อมตัวและความมีน้ำใจของซูเปอร์สตาร์อาร์เจนไตน์
เทอร์รี่เล่าว่า ลูกชายของเขาขอของที่ระลึกจากเกมนั้นเป็น “เสื้อของเมสซี่พร้อมลายเซ็น” เขาจึงให้คำสัญญากับลูกว่าจะต้องหามาให้ได้ แม้ในระหว่างแข่งขัน เขาแทบไม่ได้คิดถึงผลแพ้ชนะเลย เพราะในใจมีเพียงความคิดเดียวว่า “ต้องได้เสื้อของเมสซี่” หลังจบเกม เขาเดินเข้าไปขอเสื้อจากเมสซี่ และเจ้าตัวก็ยินดีให้ทันทีโดยไม่ลังเล แถมยังขอเสื้อของเทอร์รี่กลับไปอีกด้วย
แต่เรื่องยังไม่จบเท่านั้น เมื่อเทอร์รี่รู้ตัวว่าลืมขอลายเซ็น เขารีบไปยังห้องแต่งตัวของบาร์เซโลนา แต่ถูกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธไม่ให้เข้า เขาจึงยืนรออยู่นอกห้อง และไม่นาน เมสซี่ก็เดินออกมาพร้อมรอยยิ้ม พร้อมพูดติดตลกว่า “อยากได้รองเท้าผมด้วยไหม?” ทำเอาเทอร์รี่หัวเราะ ก่อนจะตอบว่า “ผมคงกลับบ้านไม่ได้ถ้าไม่มีลายเซ็นของคุณ ลูกผมรออยู่”
แต่ปัญหาคือ...เขาไม่มีปากกา! เทอร์รี่จึงวิ่งหาอย่างเร่งรีบ และเมื่อกลับมา เมสซี่ยังยืนรออยู่ตรงเดิม ทั้งที่เพื่อนร่วมทีมขึ้นรถบัสไปหมดแล้ว เขาเซ็นชื่อให้เทอร์รี่พร้อมพูดว่า “ผมไม่อยากให้ลูกคุณผิดหวัง และไม่อยากให้คุณต้องนอนนอกบ้านคืนนี้” คำพูดนี้ทำให้เทอร์รี่ซาบซึ้งจนจำไม่ลืม
หลังเหตุการณ์นั้น เทอร์รี่ยอมรับว่า ในชีวิตนักฟุตบอลของเขาไม่เคยเจอใครที่ถ่อมตัวและมีน้ำใจมากเท่านี้ เขายกให้เมสซี่เป็นทั้งนักเตะที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ และเป็นคนที่น่านับถือที่สุดในวงการลูกหนัง เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าความยิ่งใหญ่ของเมสซี่ไม่ได้อยู่แค่ฝีเท้า แต่ยังอยู่ที่หัวใจของเขาด้วย
เหตุการณ์เล็ก ๆ ครั้งนั้น กลายเป็นเรื่องราวที่ตราตรึงใจแฟนบอลทั่วโลก และเป็นอีกหนึ่งหลักฐานว่า “ลิโอเนล เมสซี่” ไม่ได้ยิ่งใหญ่เพียงเพราะความสามารถในสนาม แต่ยังเพราะความเป็นมนุษย์ที่มีหัวใจถ่อมตนและอบอุ่นเหนือคำบรรยาย