ภาพรวมเกมคาราบาว คัพ รอบสองที่ บลันเดลล์ พาร์ค แมนยูเสมอกริมสบี้ 2-2 ในเวลา ก่อนพ่ายดวลจุดโทษ 12-11 เกมนี้มีทั้งประตูสำคัญและชอตพลาดที่ทำให้แฟนผีสุดเซ็ง
ศึกคาราบาว คัพ รอบสองที่บลันเดลล์ พาร์ค กลายเป็นค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดราม่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเริ่มเกมแบบผิดฟอร์ม จังหวะรับมือบอลยาวและลูกเปิดด้านข้างของเจ้าถิ่นยังมีช่องว่างให้เล่นงาน ทำให้กริมสบี้ ทาวน์ฉวยโอกาสออกนำตั้งแต่ครึ่งแรก บวกกับการตัดสินใจบางชอตที่ไม่เด็ดขาดของแนวรับและผู้รักษาประตู ยิ่งกระตุ้นให้บรรยากาศในสนามร้อนแรงขึ้น อย่างไรก็ดีครึ่งหลังทีมเยือนเรียกจังหวะการต่อบอลคืนมาได้ดีขึ้น การเคลื่อนที่ของค็อบบี้ เมนูเชื่อมเกมแดนกลางกับแนวรุกช่วยให้การบุกมีน้ำหนัก ก่อนจะค่อยๆ กดดันจนได้สองประตูสำคัญไล่ตีเสมอ 2-2 และพาเกมยืดเยื้อไปถึงช่วงดวลจุดโทษ
ครึ่งแรกคือบทเรียนเรื่องสมาธิ โดยเฉพาะการจัดระยะเวลาเผชิญลูกครอสและการสื่อสารในกรอบหกหลา ชอตที่ชาร์จไม่เจอบอลจนเสียจังหวะให้กริมสบี้หนีห่าง ทำให้รูปเกมไหลไปเข้าทางเจ้าบ้านทันที ทว่าเมื่อปรับสปีดบอลและเพิ่มการเคลื่อนที่แบบหนึ่ง–สองจังหวะเร็ว แมนยูเริ่มเปิดพื้นที่ได้มากขึ้น ประตูไล่มาของไบรอัน เอ็มเบอโม่เกิดจากการต่อบอลฉับไว ส่วนลูกตีเสมอของแฮร์รี่ แม็กไกวร์ก็มาจากชุดเพลย์ลูกตั้งเตะที่ทำกันได้ดี ภาพรวมจึงสะท้อนว่าเมื่อทีมยกระดับความคมในพื้นที่สุดท้าย ผลงานก็ขยับตามทันที เพียงแต่ต้องลดความผิดพลาดส่วนบุคคลให้ได้
จุดแข็งของกริมสบี้คือการเพรสตั้งรับในบล็อกกลางแล้วคายบอลไวสู่พื้นที่กว้าง ก่อนเปิดเข้ากรอบแบบแม่นยำ ฟูลแบ็กเจ้าบ้านเติมโค้งเข้าพื้นที่เสาสองได้บ่อย ขณะเดียวกันเกมรับแมนยูถูกบังคับให้ถอยลึกจนปิดเสาแรกไม่ทันในหลายจังหวะ เมื่อรวมกับบรรยากาศบนอัฒจันทร์ที่ไล่กดดันทุกสัมผัสบอล ก็ยิ่งทำให้ผู้มาเยือนต้องใช้ความนิ่งสูงเป็นพิเศษ ช่วงไร้ VAR ในรอบนี้ยิ่งเพิ่มความกดดัน เพราะทุกจังหวะปะทะต้องเล่นต่อทันที สิ่งเหล่านี้ช่วยเสริมความเชื่อมั่นให้เจ้าถิ่นรักษาสกอร์และความฮึกเหิมได้ยาวนาน
หลังครบ 90 นาทีที่สกอร์ 2-2 ทั้งสองฝั่งยิงจุดโทษกันอย่างแม่นยำจนครบ 11 คนและวนรอบใหม่ สุดท้ายแมนยูพลาดมากกว่าแพ้รวม 11-12 ซึ่งสะท้อนสองประเด็นหลักคือ หนึ่ง ความกดดันทางจิตวิทยาที่สะสมตั้งแต่ครึ่งแรกอาจส่งผลต่อการตัดสินใจในจังหวะชี้ชะตา สอง รายละเอียดเล็กๆ เช่นมุมวิ่งเข้าหาบอลและน้ำหนักยิงในลูกที่ต้อง “การันตี” ยังขาดความสม่ำเสมอ แม้บรูโน่, เมสัน เมาท์, ดาโลต์ และเพื่อนร่วมทีมหลายรายจะทำหน้าที่ได้ดี แต่การดวลแบบมาราธอนต้องอาศัยทั้งคุณภาพและดวง ซึ่งคืนนี้ไม่เข้าข้างทีมเยือน
การตกรอบสองคาราบาว คัพ แม้ไม่ใช่ความพ่ายแพ้ที่นิยามฤดูกาล แต่เป็นสัญญาณเตือนชัดเจนเรื่องเกมรับและมาตรฐานการเริ่มเกม ทีมจำเป็นต้องรีเซ็ตความนิ่งในการป้องกันลูกกลางอากาศ ลดความผิดพลาดในกรอบหกหลา และขยับสปีดบอลให้คงเส้นคงวาตั้งแต่นาทีแรก ไม่ใช่รอให้โดนก่อนแล้วค่อยเร่ง ข่าวดีคือเกมรุกเริ่มเห็นรูปทรงจากการเชื่อมของเมนูกับแนวรุก รวมถึงคุณภาพลูกตั้งเตะที่ยังน่าเชื่อถือ หากรักษาความต่อเนื่องนี้พร้อมอัปเกรดความเข้มเกมรับ แมนยูยังมีโอกาสพลิกบรรยากาศในลีกและถ้วยอื่นๆ ได้
ไฮไลท์บอล