เชลซีโชว์ฟอร์มโหดในนัดชิงชนะเลิศศึกชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 เมื่อโคล พาลเมอร์ระเบิดฟอร์มซัดเบิ้ลและจ่ายอีกหนึ่ง พาทีมถล่มปารีส แซงต์‑แชร์กแมงขาดลอย 3-0 คว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่สองของสโมสร
เกมที่ MetLife Stadium ในนิวยอร์กเต็มไปด้วยความเข้มข้นตั้งแต่ต้น เชลซีที่มีเอ็นโซ มาเรสกา คุมทีมวางแผน high pressing อย่างเด็ดขาด บีบพื้นที่จน PSG เสียจังหวะและเล่นเกมของตัวเองไม่ได้ โคล พาลเมอร์ กลายเป็นดาวเด่นของเกมเมื่อซัดคนเดียว 2 ประตูในนาที 22 และ 30 ก่อนปั้นให้ โจนโญ่ เปโดร ยิงอีกลูกในนาที 43 ปิดเกมตั้งแต่ครึ่งแรกแม้ PSG จะครองบอลมากถึง 66% และมีโอกาสยิงเข้ากรอบถึง 6 ครั้ง แต่เจาะแนวรับเชลซีไม่ได้ แถมมาเสียผู้เล่นจากใบแดงของโจนโญ่ เนเวส นาทีที่ 83 เกมจบด้วยชัยชนะของเชลซี 3-0 พร้อมเสียงเฮสนั่นจากแฟนบอลกว่า 81,000 คนในสนาม
ศึกนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลสโมสรโลก 2025 จบลงอย่างเร้าใจที่สหรัฐอเมริกา เมื่อเชลซีโชว์ฟอร์มโหดไล่ถล่มเปแอสเช 3-0 แบบขาดลอย โดยโคล พาล์มเมอร์ กลายเป็นพระเอกของเกมนี้ ยิงคนเดียว 2 ประตู และแอสซิสต์ให้เจา เปโดรอีกหนึ่งลูก เชลซีขึ้นนำตั้งแต่นาที 22 และคุมเกมได้ทั้งหมดตลอด 90 นาที ขณะที่เปแอสเชครองบอลมากกว่า แต่แทบไม่มีโอกาสจบสกอร์สวย ๆ เลย
โคล พาล์มเมอร์ คือผู้เปลี่ยนเกมนี้ให้เป็นของเชลซีแบบเต็มตัว ด้วยสองประตูที่เฉียบขาด และการจ่ายทะลุช่องสุดคมให้เจา เปโดร ยิงปิดครึ่งแรก เขาคือผู้คว้ารางวัล Man of the Match และ Golden Ball ประจำทัวร์นาเมนต์นี้อย่างไร้ข้อกังขา พร้อมก้าวขึ้นเป็นคีย์แมนของทีมในยุคเอ็นโซ มาเรสก้า
เกมนี้ของเปแอสเชไม่ใช่แค่แพ้ในสกอร์ แต่ยังเสียทั้งสมาธิและวินัย เจา เนเวส โดนใบแดงจากจังหวะดึงผมมาร์ก กูกูเรญ่า จน VAR ต้องจัดการ ขณะที่ลุยส์ เอ็นริเก กุนซือของทีมมีปากเสียงกับนักเตะเชลซีหลังจบเกม เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้ภาพลักษณ์ของทีมแชมป์ยุโรปมัวหมองในเกมสำคัญ